พระตำหนักคำหยาด

         พระตำหนักคำหยาด ตั้งอยู่ในอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง และเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยิ่ง พระตำหนักนี้เป็นที่ปลีกวิเวกของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร กษัตริย์ผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือของกรุงศรีอยุธยา ในช่วงรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ได้แสดงความไม่พอใจต่อการดำรงตำแหน่งในราชบัลลังก์และตัดสินใจสละราชสมบัติให้กับพระเชษฐา คือพระเจ้าเอกทัศน์ หลังจากสละราชสมบัติ พระองค์ได้เสด็จลงเรือพระที่นั่งเพื่อทรงผนวชที่วัดโพธิ์ทองคำหยาด และได้เลือกพระตำหนักคำหยาดซึ่งสร้างขึ้นโดยพระราชบิดา คือพระจ้าอยู่หัวบรมโกศ เป็นที่พักผ่อนและปลีกวิเวกในช่วงที่ทรงเสด็จประพาสเมืองอ่างทอง

         พระตำหนักคำหยาดไม่เพียงแต่เป็นที่พักของพระราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบและการเรียกร้องสันติภาพ ที่นี่เต็มไปด้วยความงดงามทางสถาปัตยกรรม โดยแสดงถึงฝีมือช่างและความละเอียดอ่อนในการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไทยดั้งเดิมกับอิทธิพลของวัฒนธรรมต่างประเทศ พระตำหนักแห่งนี้ยังคงยืนหยัดเป็นสักขีพยานแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย และยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์มาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย

พระตำหนักคำหยาด_1

ประวัติของพระตำหนักคำหยาด

         ในประวัติศาสตร์ไทยตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาหลายฉบับ มีการกล่าวถึง "พระตำหนักคำหยาด" ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในยุคนั้น ปรากฏว่าในปีมะโรง โทศก เดือน 8 ข้างขึ้น (พ.ศ.2303) กรมขุนพรพินิจ (พระเจ้าอุทุมพร) ได้เสด็จลงเรือพระที่นั่งออกไปยังสัดโพธิ์ทองคำหยาด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พระองค์ทรงผนวช หลังจากนั้น พระองค์จึงเสด็จกลับเข้ามาอยู่ที่วัดประดู่ ดังที่ทรงปฏิบัติมาก่อนหน้านี้

          จากบันทึกนี้ สามารถสันนิษฐานได้ว่า พระตำหนักคำหยาดน่าจะเป็นที่ประทับของกรมขุนพรพินิจในช่วงที่พระองค์ทรงผนวช สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตของสมาชิกพระราชวงศ์และข้าราชการในสมัยกรุงศรีอยุธยา

พระตำหนักคำหยาด_2

 

พระตำหนักคำหยาด_3

พระตำหนักคำหยาด_4

เรื่องเล่าที่พระตำหนักคำหยาด

          มีการเล่าว่า พระตำหนักคำหยาดไม่เพียงแต่เป็นที่พำนักของพระเจ้าแต่ยังเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่รวบรวมเหล่าขุนศึก นักรบ ปู่ดอก ปู่ทองแก้ว และชาวบ้าน เพื่อวางแผนและประชุมก่อนที่จะออกเดินทางไปยังบ้านบางระจัน เพื่อตั้งค่ายและเตรียมพลีชีพต้านทานกองทัพอังวะ สถานการณ์ทางการทหารนี้เกิดขึ้นประมาณ 8 เดือนก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะถูกทำลายโดยกองทัพพม่า

          ต่อมา หลังจากที่พระเจ้าเอกทัศน์ได้หนีไปแล้ว มีเรื่องเล่าว่าพระองค์อดอาหารและสวรรคตในดงต้นจิก แต่บางครั้งก็มีการกล่าวว่าถูกกองทัพพม่าสังหารและฝังพระศพไว้ ต่อมาพระเจ้าตากสินได้สั่งให้ทหารขุดพระศพขึ้นมาเพื่อทำพิธีถวายพระเพลิงศพ ในขณะที่เจ้าฟ้าอุทุมพร ถูกจับไปยังประเทศพม่า แม้ในขณะนั้นยังทรงครองเพศบรรชิต ตามบันทึกในพงศาวดารพม่า อย่าง "คำให้การขุนหลวงหาวัด" หรือ "คำให้การชาวกรุงเก่า" บันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระตำหนักคำหยาดและเหตุการณ์ในยุคนั้น

พระตำหนักคำหยาด_5

พระตำหนักคำหยาด_6

พระตำหนักคำหยาด_7

Tag : พระตำหนักคำหยาด,อำเภอโพธิ์ทอง,จังหวัดอ่างทอง,ทำบุญ,ไหว้พระ,ไหว้พระอ่างทอง,ตำหนักโบราณ,พระเจ้าเอกทัศน์,สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร

Other tourist attractions in Ang Thong Province

วัดราชปักษี(วัดนก)

วัดราชปักษี(วัดนก)

อำเภอเมืองอ่างทอง , Ang Thong Province
ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) องค์ใหญ่ มีลักษณะคล้ายพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยา
วัดต้นสน

วัดต้นสน

อำเภอเมืองอ่างทอง , Ang Thong Province
สันนิษฐานว่าเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีพระพุทธรูปทองเหลืององค์ใหญ่นามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร หรือ สมเด็จพระศรีเมืองทอง องค์ขนาดใหญ่
วัดป่าโมกวรวิหาร

วัดป่าโมกวรวิหาร

อำเภอป่าโมก , Ang Thong Province
พระพุทธไสยาสน์ที่งดงาม ตำนานพระนอนพูดได้ และเป็น 1 ใน 7 วัด พระใหญ่ในที่อ่างทอง
วัดไชโยวรวิหาร (วัดเกษไชโย)

วัดไชโยวรวิหาร (วัดเกษไชโย)

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ขึ้นมาสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ หลังจากหลวงพ่อโตชำรุดเสียหาย มีการสร้างพระมหาพุทธพิมพ์ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร
วัดสระเกศ

วัดสระเกศ

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
ตามประวัติเล่าว่า พระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถ ได้ทรงยกทัพมาตั้งรับกองทัพพม่าที่บ้านสระเกษและทรงได้รับชัยชนะ จากนั้นได้สรงน้ำชำระพระวรกาย ล้างพระพักตร์ และสระพระเกศา ณ ที่นี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ วัดสระเกษ
พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง

พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
เป็นพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานมีความเห็นว่าได้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระตำหนักคำหยาด

พระตำหนักคำหยาด

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
พระตำหนักที่ปลีกวิเวกของ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
วัดม่วง

วัดม่วง

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง เมื่อกรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า พม่าได้เผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอาราม และพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก เหลืออยู่เพียงซากปรักหักพัง
พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง (วัดท่าอิฐ)

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง (วัดท่าอิฐ)

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
เดิมที่แห่งนี้สันนิษฐานว่าเป็นที่ปั้นเผาอิฐเพื่อนำไปก่อสร้างวัดขุนอินทประมูล เรียกว่าท่าขนอิฐ เป็นที่มาของชื่อ วัดท่าอิฐ
วัดคูมะนาวหวาน

วัดคูมะนาวหวาน

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่มานาน วัดคูมะนาวหวาน มีเกจิอาจารย์หลายๆท่านที่ผู้คนให้การนับถือและศรัทธา และยังมีหลวงพ่อวัดคู เป็นที่สักการะบูชาของผู้คน
วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
เดิมตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยามากเกินไป จึงย้ายวัดไปหาที่ตั้งวัดขึ้นมาใหม่ ณ ที่ตั้งของวัดโบสถ์ ซึ่งเป็นวัดร้างแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เดิม
วัดสี่ร้อย

วัดสี่ร้อย

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญ ย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษ 400 คน ที่พลีชีพและปกป้องแผ่นดินจนเสียชีวิต
วัดมหานาม

วัดมหานาม

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ปี พ.ศ. 2319 เดิมเรียกวัดนี้ว่า วัดอินทราราม มีพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เรียกกันว่า หลวงพ่อขาว มีงานนสัสการปิดทองหลวงพ่อขาว 2 วัน 2 คืน ในช่วงระหว่าง 10 - 20 มีนาคม ของทุกปี

Tourist attractions by province

Northern tourist

Northeast tourist

Central tourist

Eastern tourist

Southern tourist