เขื่อนศรีนครินทร์

       เขื่อนศรีนครินทร์ (ชื่อเดิม เขื่อนเจ้าเณร) ไม่เพียงแต่เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลองเท่านั้น แต่ยังถือว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาท้องถิ่นอีกด้วย โครงการนี้ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควใหญ่ ใกล้บ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นเขื่อนแห่งที่ 8 จาก 17 แห่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการสร้างขึ้น

       เขื่อนศรีนครินทร์ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่ออำนวยประโยชน์ในหลายด้าน รวมถึงการจัดการทรัพยากรน้ำ การผลิตไฟฟ้า และการป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ โครงการนี้ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ

       นอกเหนือจากฟังก์ชั่นหลักของมัน ปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์ได้เติบโตและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมของประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนอย่างต่อเนื่อง ความงดงามของภูเขาและทะเลสาปในพื้นที่โครงการได้ทำให้เขื่อนศรีนครินทร์กลายเป็นสถานที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทยในท้องถิ่นและระดับสากล

       อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมและการศึกษา ทั้งนี้ยังสร้างโอกาสงานและรายได้ให้กับชุมชนใกล้เคียง เขื่อนศรีนครินทร์เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการสร้างประโยชน์ที่หลากหลาย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศไทย

เขื่อนศรีนครินทร์_1

ลักษณะโรงไฟฟ้าและเขื่อนศรีนครินทร์

         เขื่อนศรีนครินทร์เป็นหนึ่งในเขื่อนหินถมแกนดินเหนียวที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยความสูงจากฐานรากถึง 140 เมตร และยาวของสันเขื่อนทั้งหมด 610 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์มีขนาดถึง 419 ตารางกิโลเมตร ทำให้มีความจุในการเก็บน้ำสูงสุดของประเทศ ที่ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร

         โรงไฟฟ้าที่อยู่ภายในพื้นที่เขื่อนเป็นอาคารที่สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั้งหมด 5 เครื่อง โดยเครื่องที่ 1 ถึง 3 มีกำลังผลิต 120,000 กิโลวัตต์ต่อเครื่อง ในขณะที่เครื่องที่ 4 และ 5 ใช้ระบบสูบกลับ และมีกำลังผลิตที่สูงขึ้นเป็น 180,000 กิโลวัตต์ต่อเครื่อง รวมกำลังผลิตทั้งหมดถึง 720,000 กิโลวัตต์

         งานก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ได้เริ่มต้นในปี 2516 และสำเร็จการก่อสร้างในปี 2523 โดยได้รับเกียรติจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระนามาภิไธยของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็นชื่อของเขื่อน พระองค์ยังเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเปิดเขื่อนในวันที่ 15 มิถุนายน 2525

         เขื่อนศรีนครินทร์ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในการจัดการทรัพยากรน้ำและพลังงานของประเทศ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ประชาชนสามารถเข้าไปชมและเรียนรู้ถึงเทคโนโลยีและการจัดการที่ใช้ในการสร้างเขื่อนได้ ทั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและรัฐบาลในการดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว

เขื่อนศรีนครินทร์_2

สิ่งอำนวยประโยชน์ในด้านต่างๆของเขื่อนศรีนครินทร์

          ชลประทานและเขื่อนเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรน้ำในประเทศไทย โดยเฉพาะเขื่อนแม่กลองและเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีหน้าที่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการช่วยส่งเสริมระบบชลประทานโครงการแม่กลองใหญ่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเขื่อนแม่กลองของกรมชลประทานเป็นหัวงานทดน้ำเข้าสู่พื้นที่เกษตรตลอดปี อาทิเนื้อที่ถึง 4,118 ล้านไร่

          ด้านการผลิตไฟฟ้า ทั้งเขื่อนแม่กลองและเขื่อนศรีนครินทร์มีความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้าปีละประมาณ 1,250 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้เป็นแหล่งพลังงานที่มีความสำคัญ

          ด้านการบรรเทาอุทกภัย โดยทั้งเขื่อนแม่กลองและเขื่อนศรีนครินทร์สามารถกักเก็บน้ำที่หลากมาในช่วงฤดูฝนไว้ในอ่างเก็บน้ำได้เป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้ำแม่กลองและอื่น ๆ ให้ลดน้อยลง

          ในด้านคมนาคมทางน้ำ การมีเขื่อนช่วยให้สามารถใช้เป็นเส้นทางเดินเรือไปยังบริเวณอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น

          ด้านการป้องกันปัญหาน้ำเค็ม เขื่อนสามารถปล่อยน้ำลงเพื่อผลักดันน้ำเค็มให้ไม่หนุนล้ำเข้ามาทำความเสียหายแก่พื้นที่บริเวณปากน้ำแม่กลองในช่วงฤดูแล้ง

          ด้านแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับราษฎรในเขตรอบเขื่อน และเขื่อนศรีนครินทร์ยังนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี โดยรับผู้มาเที่ยวชมปีละเป็นจำนวนกว่าแสนคน ไม่เพียงแต่ให้ความรู้และความเพลิดเพลิน แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขยายตัวทางการท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง เช่น แพท่องเที่ยวในอ่างเก็บน้ำ เป็นต้น

          ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนแม่กลองทั้งคู่ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายและมีคุณค่ามากสำหรับประชาชนและประเทศไทยในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการเกษตร พลังงาน การคมนาคม การป้องกันปัญหาน้ำเค็ม และการท่องเที่ยว

Tag : เขื่อนศรีนครินทร์,เขื่อนเจ้าเณร,ลุ่มน้ำแม่กลอง,จังหวัดกาญจนบุรี,ศรีสวัสดิ์,อำเภอศรีสวัสดิ์,เขื่อน,โรงไฟฟ้า,

Other tourist attractions in Kanchanaburi Province

วัดถ้ำมังกรทอง

วัดถ้ำมังกรทอง

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
ภายในวัดมีถ้ำเรียกกันว่าถ้ำมังกรทอง เป็นถ้ำขนาดเล็ก มีซอกหินสลับซับซ้อนสวยงาม และภายในถ้ำมีหลวงพ่อใหญ่พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 100 ปี
น้ำตกเกริงกระเวีย

น้ำตกเกริงกระเวีย

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ริมถนนสายหลัก และร้านอาหารอยู่หลายร้าน สามารถ แวะพักผ่อน รับประทานอาหาร หรือเล่นน้ำได้
วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ)

วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ)

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นองค์กรศาสนาที่ถูกสร้างขึ้นในลักษณะของศิลปะพม่าที่งดงาม โดยที่วัดเดิมถูกจมน้ำในที่สุดจากการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

Si Sawat district , Kanchanaburi Province
ประกอบด้วยทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตก น้ำพุร้อน ถ้ำ และเกาะแก่งต่างๆ ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีเขตติดต่อกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขื่อนศรีนครินทร์

เขื่อนศรีนครินทร์

Si Sawat district , Kanchanaburi Province
เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้น บนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร นับเป็น เขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้น
วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ

Tha Muang district , Kanchanaburi Province
เป็นวัดที่มีพระองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี พระเจดีย์ที่มีความสวยงามโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล ตั้งอยู่บนเนินเขา มีพระบรมสารีริกธาตุภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และหลวงพ่อชินประทานพร
เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
ป็นที่เที่ยวสำหรับคนที่ชอบการเดินป่า ชอบผจญภัย พิชิตยอดเขาสูง ยอดเขาช้างเผือกสูงตระหง่าน รอให้มาพิสูจน์ความกล้ากัน โดยเฉพาะจุดของสันเขาที่หวาดเสียวที่สุดที่เรียกว่า สันคมมีด
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
อยู่ในเขตท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก มีพืชพรรณธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และยังมีหมู่บ้านที่ยังอยู่ห่างไกล
ประตูเมืองกาญจนบุรี

ประตูเมืองกาญจนบุรี

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
เป็นประตูเมืองที่ก่อด้วยอิฐและปูน สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในช่วงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะประตูเมืองด้านหน้าและกำแพงเมืองบางส่วนที่อยู่ติดกัน
สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)

สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมวิว และสัมผัสอากาศเย็นในช่วงเข้าฤดูหนาว ที่สะพานมอญ ตอนเช้าจะได้สัมผัสไอหมอกที่ปกคลุมบนท้องน้ำและยอดเขา และร่วมใส่บาตรบริเวณสะพานไม้มอญ ตามวิถีชีวิตชาวมอญ
วัดท่าขนุน

วัดท่าขนุน

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
ได้ชื่อตามเมืองด่านท่าขนุน สมัยนั้นการสัญจรส่วนมากไปทางเรือที่ล่องตามลำน้ำแควน้อย จุดที่ตั้งของเมืองด่านท่าขนุนเป็นท่าเรือ มีต้นขนุนอยู่หลายต้น จึงเรียกกันง่าย ๆ ว่า ท่าขนุน
จุดชมวิวป้อมปี่

จุดชมวิวป้อมปี่

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
จุดชมวิวป้อมปี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบและสวยงามของประเทศไทย ป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม
วัดสมเด็จ

วัดสมเด็จ

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
เป็นวัดที่มีศิลปวัฒนธรรมไทยรามัญ (มอญ) และพม่าอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ด้านนอกบริเวณฝั่งตรงข้ามของถนนอีกฟากจะมีศาลาซึ่งมีพระพุทธรูปปางต่างๆ
เจดีย์พุทธคยา

เจดีย์พุทธคยา

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
พระเจดีย์พุทธคยาเป็นสถานที่สักการะที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักอย่างดีในหมู่ผู้นับถือศาสนาพุทธและนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ใกล้กับวัดวังก์วิเวการามที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน
วัดโชคผาสุกิจ

วัดโชคผาสุกิจ

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ห่างจากวัดท่าขนุนไปทาง อ.สังขละบุรี ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์โชคผาสุกิจ
ถนนคนเดินสังขละบุรี

ถนนคนเดินสังขละบุรี

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งสำหรับผู้ที่ชอบเที่ยว กิน ช้อปปิ้ง เดินเล่นชิลๆ บรรยากาศดีๆ สามารถแวะได้ที่ ถนนคนเดินสังขละบุรี มีเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น
ต้นจามจุรียักษ์หรือต้นก้ามปูยักษ์

ต้นจามจุรียักษ์หรือต้นก้ามปูยักษ์

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
เป็นต้นจามจุรียักษ์ขนาดใหญ่มาก ยืนต้นตระหง่านมายาวนานมากกว่า 100 ปี เป็นความงดงามที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน
วัดปากลำขาแข้ง (โบสถ์สแตนเลส)

วัดปากลำขาแข้ง (โบสถ์สแตนเลส)

Si Sawat district , Kanchanaburi Province
พระพุทธรูปแสตนเลส ฉลุลายไทยวิจิตรงดงาม สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาของประชาชน ที่ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วัดถ้ำพุหว้า

วัดถ้ำพุหว้า

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
โอบล้อมด้วยภูเขา ป่าไม้และถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อยสวยงาม บรรยากาศโดยรอบสะอาด ร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมและเจริญศีลภาวนา

Tourist attractions by province

Northern tourist

Northeast tourist

Central tourist

Eastern tourist

Southern tourist