วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

          วัดศุขเกษมธรรมิการาม (พระสีวลีมหาลาภ) ตั้งอยู่ที่ตำบลเทวราช อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ประวัติของวัดศุขเกษมธรรมิการามนั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเดิมทีวัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยามากเกินไป ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของศาสนสถานและศาสนวัตถุในวัด ด้วยเหตุนี้ จึงมีการตัดสินใจที่จะย้ายวัดศุขเกษมธรรมิการามไปยังสถานที่ใหม่ สถานที่ใหม่นี้ตั้งอยู่ที่ที่ตั้งของวัดโบสถ์, ซึ่งเป็นวัดร้างอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากที่ตั้งเดิมของวัดศุขเกษมธรรมิการาม การย้ายวัดเป็นการรักษาความเป็นมาและคุณค่าทางศาสนาของวัดไว้ได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากภัยธรรมชาติในอนาคตได้เป็นอย่างดี

วัดศุขเกษมธรรมิการาม (พระสีวลีมหาลาภ) _1

ประวัติของวัดศุขเกษมธรรมิการาม

          วัดศุขเกษมธรรมิการามมีที่ตั้งที่สำคัญและมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ในบริเวณอุโบสถของวัดนี้มีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่สามองค์ แต่ละองค์มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และทางศาสนาอย่างมาก ฐานอุโบสถเก่านี้มีการดูแลรักษาอย่างดี และในปัจจุบันได้มีการสร้างวิหารพระพุทธวิสุทธิมงคลครอบคลุมพื้นที่นี้เพื่อคุ้มครอง นอกจากนี้ ยังมีสถูปเจดีย์สี่เหลี่ยมสององค์ที่ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัด

           ในอดีต มีการเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปสององค์จากวัดศุขเกษมธรรมิการามไปยังวัดอื่นๆ เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่นั้นๆ ได้มีโอกาสบูชาและสักการะ ส่วนพระพุทธรูปองค์ปัจจุบันที่ตั้งอยู่นี้ มีพระนามว่า พระพุทธวิสุทธิมงคล (หลวงพ่อขาว) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถืออย่างมาก องค์พระนี้มีลักษณะเฉพาะเนื่องจากเป็นปูนปั้นที่ตั้งอยู่กับพื้นดินที่มีความชื้นสูง ทำให้เกิดการหลุดลอกของเนื้อปูน จึงต้องมีการซ่อมแซมถึงสามครั้ง โดยภายในองค์พระบรรจุเศียรอยู่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลและรักษาพระพุทธรูปให้คงทนต่อสภาวะต่างๆ ได้อย่างดี

          วัดศุขเกษมธรรมิการาม ตั้งอยู่ในจังหวัดอ่างทองของประเทศไทย นับเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 130 ปี และถือเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนี้ วัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และต่อมาได้ย้ายมายังที่ตั้งใหม่ โดยยังคงใช้ชื่อ "วัดศุขเกษมธรรมิการาม" มาจนถึงปัจจุบัน

          ที่วัดศุขเกษมธรรมิการาม มีโบราณสถานหลายแห่งที่น่าสนใจ อาทิเช่น อุโบสถที่มีอายุเกือบ 100 ปี และยังคงสภาพที่สมบูรณ์และงดงาม ภายในอุโบสถนี้ประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของพระเวสสันดร ซึ่งเขียนขึ้นมาประมาณ 20 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีศาลาการเปรียญ หอระฆังไม้ และสถูปเจดีย์ 2 องค์ โดยหนึ่งในนั้นตั้งอยู่หน้าวิหารพระพุทธวิสุทธิมงคล (หลวงพ่อขาว) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งในวัด

          วัดศุขเกษมธรรมิการามเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่เป็นที่ประจักษ์ของความเชื่อทางศาสนาและการทำวัตรปฏิบัติทางพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของศิลปะและวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และความเป็นมาของพื้นที่นี้อีกด้วย การเข้าชมวัดและสถานที่ต่างๆ ภายในวัดจึงเป็นการเรียนรู้และสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาของจังหวัดอ่างทองและประเทศไทยในฐานะหนึ่ง นอกจากนี้ วัดยังเป็นที่พักผ่อนจิตใจและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาสำหรับชุมชนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชม

 

Tag : วัดศุขเกษมธรรมิการาม,พระสีวลีมหาลาภ,พระสีวลี,ตำบลเทวราช,อำเภอไชโย,จังหวัดอ่างทอง,แม่น้ำเจ้าพระยา,ไหว้พระ,ทำบุญ,พระพุทธวิสุทธิมงคล,หลวงพ่อขาว

Other tourist attractions in Ang Thong Province

วัดราชปักษี(วัดนก)

วัดราชปักษี(วัดนก)

อำเภอเมืองอ่างทอง , Ang Thong Province
ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) องค์ใหญ่ มีลักษณะคล้ายพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยา
วัดต้นสน

วัดต้นสน

อำเภอเมืองอ่างทอง , Ang Thong Province
สันนิษฐานว่าเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีพระพุทธรูปทองเหลืององค์ใหญ่นามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร หรือ สมเด็จพระศรีเมืองทอง องค์ขนาดใหญ่
วัดป่าโมกวรวิหาร

วัดป่าโมกวรวิหาร

อำเภอป่าโมก , Ang Thong Province
พระพุทธไสยาสน์ที่งดงาม ตำนานพระนอนพูดได้ และเป็น 1 ใน 7 วัด พระใหญ่ในที่อ่างทอง
วัดไชโยวรวิหาร (วัดเกษไชโย)

วัดไชโยวรวิหาร (วัดเกษไชโย)

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ขึ้นมาสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ หลังจากหลวงพ่อโตชำรุดเสียหาย มีการสร้างพระมหาพุทธพิมพ์ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร
วัดสระเกศ

วัดสระเกศ

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
ตามประวัติเล่าว่า พระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถ ได้ทรงยกทัพมาตั้งรับกองทัพพม่าที่บ้านสระเกษและทรงได้รับชัยชนะ จากนั้นได้สรงน้ำชำระพระวรกาย ล้างพระพักตร์ และสระพระเกศา ณ ที่นี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ วัดสระเกษ
พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง

พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
เป็นพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานมีความเห็นว่าได้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระตำหนักคำหยาด

พระตำหนักคำหยาด

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
พระตำหนักที่ปลีกวิเวกของ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
วัดม่วง

วัดม่วง

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง เมื่อกรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า พม่าได้เผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอาราม และพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก เหลืออยู่เพียงซากปรักหักพัง
พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง (วัดท่าอิฐ)

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง (วัดท่าอิฐ)

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
เดิมที่แห่งนี้สันนิษฐานว่าเป็นที่ปั้นเผาอิฐเพื่อนำไปก่อสร้างวัดขุนอินทประมูล เรียกว่าท่าขนอิฐ เป็นที่มาของชื่อ วัดท่าอิฐ
วัดคูมะนาวหวาน

วัดคูมะนาวหวาน

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่มานาน วัดคูมะนาวหวาน มีเกจิอาจารย์หลายๆท่านที่ผู้คนให้การนับถือและศรัทธา และยังมีหลวงพ่อวัดคู เป็นที่สักการะบูชาของผู้คน
วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
เดิมตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยามากเกินไป จึงย้ายวัดไปหาที่ตั้งวัดขึ้นมาใหม่ ณ ที่ตั้งของวัดโบสถ์ ซึ่งเป็นวัดร้างแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เดิม
วัดสี่ร้อย

วัดสี่ร้อย

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญ ย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษ 400 คน ที่พลีชีพและปกป้องแผ่นดินจนเสียชีวิต
วัดมหานาม

วัดมหานาม

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ปี พ.ศ. 2319 เดิมเรียกวัดนี้ว่า วัดอินทราราม มีพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เรียกกันว่า หลวงพ่อขาว มีงานนสัสการปิดทองหลวงพ่อขาว 2 วัน 2 คืน ในช่วงระหว่าง 10 - 20 มีนาคม ของทุกปี

Tourist attractions by province

Northern tourist

Northeast tourist

Central tourist

Eastern tourist

Southern tourist