วัดสี่ร้อย

         วัดสี่ร้อย ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นับเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนา วัดนี้โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ที่สูงถึง 21 เมตร และหน้าตักกว้างกว่า 6 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่น่าสนใจของจังหวัดอ่างทอง

         ปัจจุบัน วัดสี่ร้อยได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมีการจัดงานประจำปีขึ้นในวันเพ็ญเดือน 12 งานนี้ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมาเยี่ยมชมและนมัสการหลวงพ่อใหญ่ เพื่อขอพรและโชคลาภ ผู้ที่มีความทุกข์หรือปัญหาก็มักมาขอคำแนะนำและแก้บน ซึ่งมักจะมีการแสดงพลุและละครในงาน

         นอกจากนี้ วัดสี่ร้อยยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความเชื่อมโยงของศาสนากับวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างศิลปะ ศาสนา และการท่องเที่ยว ทำให้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจไม่เพียงแต่สำหรับผู้ที่มองหาความสงบและพรจากพระ แต่ยังรวมถึงผู้ที่สนใจในเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรมไทยด้วย

วัดสี่ร้อย_1

วัดสี่ร้อย_8

 ประวัติของวัดสี่ร้อย

          ตามตำนานเล่าว่าในอดีต พระเจ้าอลองพญา กษัตริย์พม่า ได้ส่งมังระ ละมังฆ้อนนรธาราชบุตร นำทัพมาโจมตีเมืองมะริดของไทย ซึ่งขึ้นตรงกับกรุงศรีอยุธยา ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ ผู้ชำนาญการรบ จึงนำชาววิเศษไชยชาญ 400 คน เข้าร่วมกองทัพพระยารัตนาธิเบศร์ ที่ตั้งหัวหน้าที่เมืองกุยบุรี ใช้ชื่อกองทัพว่า "กองอาทมาต" และได้ตั้งหัวหน้าป้องกันทหารพม่าที่อ่าวหว้าขาว ในปัจจุบันอยู่ทางเหนือของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          การต่อสู้ระหว่างกองทัพไทยและพม่าเกิดขึ้นอย่างดุเดือด ทหารไทยแม้จะน้อยกว่าก็ต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่ในที่สุดก็ถูกพม่าโจมตีจนแตกพ่าย ทหารกองอาทมาตที่มีวิชาอาคมแก่กล้าถูกไสช้างเหยียบย่ำจนตายเป็นจำนวนมาก ขุนรองปลัดชูและทหารกองอาทมาตทั้ง 400 คนจึงเสียชีวิต

          เมื่อชาววิเศษไชยชาญทราบข่าว ได้สร้างวัดสี่ร้อยขึ้นในปี พ.ศ. 2313 เพื่อระลึกถึงผู้พลีชีพ ตั้งชื่อวัดตามจำนวนทหารกองอาทมาต 400 คนที่สูญเสียชีวิตในการรบ ความเงียบเหงาและความโศกเศร้าครอบงำชาวบ้าน การสร้างวัดนี้จึงเป็นการแสดงความอาลัยและขอให้ดวงวิญญาณทหารกล้าได้ไปสู่สุคติ

วัดสี่ร้อย_2

วัดสี่ร้อย_3

เจดีย์บรรพบุรุษวัดสี่ร้อย

         เพื่อเป็นอนุสรณ์และย้ำเตือนความทรงจำให้รุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญให้ระลึกถึงบรรพบุรุษที่เสียสละชีวิตในการปกป้องแผ่นดิน, เจ้าอาวาสวัดสี่ร้อยในยุคนั้นได้ก่อสร้างเจดีย์ ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมดวงวิญญาณของชาวเมืองวิเศษไชยชาญที่เสียชีวิตจำนวน 400 คน. เจดีย์นี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและการอุทิศตนของชาวเมืองในอดีต ซึ่งเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่และความสามัคคีในการปกป้องเมืองจากผู้รุกราน

          วัดสี่ร้อยนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำหรับการบวงสรวงและรำลึกถึงผู้ที่จากไป แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งและศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อบ้านเกิด ปัจจุบัน วัดแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางของชุมชน ที่ชาวบ้านมาชุมนุมและร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อรักษาความสามัคคีและเชื่อมโยงวัฒนธรรมของเมืองวิเศษไชยชาญไว้

วัดสี่ร้อย_4

วัดสี่ร้อย_5

วัดสี่ร้อย_6

วัดสี่ร้อย_7

Tag : วัดสี่ร้อย,วัด400,วัดในอ่างทอง,ไหว้พระ,ทำบุญ,พระองค์ใหญ่,พระใหญ่,วิเศษไชยชาญ,กองอาทมาต,ขุนรองปลัดชู

Other tourist attractions in Ang Thong Province

วัดราชปักษี(วัดนก)

วัดราชปักษี(วัดนก)

อำเภอเมืองอ่างทอง , Ang Thong Province
ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) องค์ใหญ่ มีลักษณะคล้ายพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยา
วัดต้นสน

วัดต้นสน

อำเภอเมืองอ่างทอง , Ang Thong Province
สันนิษฐานว่าเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีพระพุทธรูปทองเหลืององค์ใหญ่นามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร หรือ สมเด็จพระศรีเมืองทอง องค์ขนาดใหญ่
วัดป่าโมกวรวิหาร

วัดป่าโมกวรวิหาร

อำเภอป่าโมก , Ang Thong Province
พระพุทธไสยาสน์ที่งดงาม ตำนานพระนอนพูดได้ และเป็น 1 ใน 7 วัด พระใหญ่ในที่อ่างทอง
วัดไชโยวรวิหาร (วัดเกษไชโย)

วัดไชโยวรวิหาร (วัดเกษไชโย)

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ขึ้นมาสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ หลังจากหลวงพ่อโตชำรุดเสียหาย มีการสร้างพระมหาพุทธพิมพ์ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร
วัดสระเกศ

วัดสระเกศ

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
ตามประวัติเล่าว่า พระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถ ได้ทรงยกทัพมาตั้งรับกองทัพพม่าที่บ้านสระเกษและทรงได้รับชัยชนะ จากนั้นได้สรงน้ำชำระพระวรกาย ล้างพระพักตร์ และสระพระเกศา ณ ที่นี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ วัดสระเกษ
พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง

พระนอนวัดขุนอินทประมูล หรือ พระศรีเมืองทอง

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
เป็นพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวเป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานมีความเห็นว่าได้สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
พระตำหนักคำหยาด

พระตำหนักคำหยาด

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
พระตำหนักที่ปลีกวิเวกของ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
วัดม่วง

วัดม่วง

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมทีวัดม่วงเป็นวัดร้าง เมื่อกรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า พม่าได้เผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอาราม และพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก เหลืออยู่เพียงซากปรักหักพัง
พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง (วัดท่าอิฐ)

พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง (วัดท่าอิฐ)

อำเภอโพธิ์ทอง , Ang Thong Province
เดิมที่แห่งนี้สันนิษฐานว่าเป็นที่ปั้นเผาอิฐเพื่อนำไปก่อสร้างวัดขุนอินทประมูล เรียกว่าท่าขนอิฐ เป็นที่มาของชื่อ วัดท่าอิฐ
วัดคูมะนาวหวาน

วัดคูมะนาวหวาน

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่มานาน วัดคูมะนาวหวาน มีเกจิอาจารย์หลายๆท่านที่ผู้คนให้การนับถือและศรัทธา และยังมีหลวงพ่อวัดคู เป็นที่สักการะบูชาของผู้คน
วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

วัดศุขเกษมธรรมิการาม(พระสีวลีมหาลาภ)

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
เดิมตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยามากเกินไป จึงย้ายวัดไปหาที่ตั้งวัดขึ้นมาใหม่ ณ ที่ตั้งของวัดโบสถ์ ซึ่งเป็นวัดร้างแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เดิม
วัดสี่ร้อย

วัดสี่ร้อย

อำเภอวิเศษชัยชาญ , Ang Thong Province
สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญ ย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษ 400 คน ที่พลีชีพและปกป้องแผ่นดินจนเสียชีวิต
วัดมหานาม

วัดมหานาม

อำเภอไชโย , Ang Thong Province
สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ปี พ.ศ. 2319 เดิมเรียกวัดนี้ว่า วัดอินทราราม มีพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เรียกกันว่า หลวงพ่อขาว มีงานนสัสการปิดทองหลวงพ่อขาว 2 วัน 2 คืน ในช่วงระหว่าง 10 - 20 มีนาคม ของทุกปี

Tourist attractions by province

Northern tourist

Northeast tourist

Central tourist

Eastern tourist

Southern tourist