วัดถ้ำผาแด่นเป็นสถานที่ศึกษาธรรมที่อยู่ในบ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ในอดีตเคยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพราะหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมถึงกลุ่มคณะครูสายวัดป่ากรรมฐาน ที่เคยมาทำการปักกิ่ง และทำบุญบำเพ็ญเพียรที่นี่ โดยมีประวัติมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 เป็นต้นมา โดยภายหลังจากนั้นวัดนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงหลายส่วน ทั้งเรื่องของภูมิทัศน์ การปรับปรุงถนน และเส้นทางเพื่อให้คนที่มาเยี่ยมชมหรือศึกษาธรรมได้สะดวกสบายมากขึ้น
รูปภาพจาก : Wuttichai
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดถ้ำผาแด่น
ในยุคก่อน ณ หน้าผาของวัดนี้ มีหินทรายที่หล่นลงมา จึงได้รับการแกะสลักจากหลวงพ่อปกรณ์ กนฺตวีโร ท่านเป็นผู้ที่ดูแลและเป็นเจ้าอาวาสวัด ท่านได้ทำการแกะสลักเรื่องราวของพุทธประวัติต่างๆ บนหินเหล่านั้น และแบ่งหินเป็น 3 ก้อน ดังนี้
- หินก้อนแรก ได้แกะสลักเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่การเกิด, การตรัสรู้, และการปรินิพพาน ซึ่งด้านหลังของหินนี้ ยังมีภาพของพระอริยสงฆ์จากประเทศไทยต่างๆ และด้านข้างของหินยังมีภาพของพญาครุฑ ซึ่งบ่งบอกถึงความปรารถนาและความต้องการของมนุษย์
- หินก้อนที่สอง มีภาพแกะสลักของรอยพระพุทธบาท ทั้งหมด 4 รอย ซึ่งเป็นการนำเสนอความสำคัญของการศึกษาธรรม และคำสอนจากพระพุทธเจ้า
- หินก้อนสุดท้าย แสดงถึงภาพแกะสลักของ 4 มหาเทพย์ ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพล แต่ไม่ว่าจะมีอำนาจแค่ไหนก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากวัฏจักรสงสาร หรือวงวารการเกิดตายที่ทุกคนต้องผ่านมา
วัดถ้ำผาแด่นเป็นสถานที่ศึกษาธรรมที่อยู่ในบ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ในอดีตเคยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพราะหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมถึงกลุ่มคณะครูสายวัดป่ากรรมฐาน ที่เคยมาทำการปักกิ่ง และทำบุญบำเพ็ญเพียรที่นี่ โดยมีประวัติมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 เป็นต้นมา โดยภายหลังจากนั้นวัดนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงหลายส่วน ทั้งเรื่องของภูมิทัศน์ การปรับปรุงถนน และเส้นทางเพื่อให้คนที่มาเยี่ยมชมหรือศึกษาธรรมได้สะดวกสบายมากขึ้น
รูปภาพจาก : Wuttichai
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดถ้ำผาแด่น
ในยุคก่อน ณ หน้าผาของวัดนี้ มีหินทรายที่หล่นลงมา จึงได้รับการแกะสลักจากหลวงพ่อปกรณ์ กนฺตวีโร ท่านเป็นผู้ที่ดูแลและเป็นเจ้าอาวาสวัด ท่านได้ทำการแกะสลักเรื่องราวของพุทธประวัติต่างๆ บนหินเหล่านั้น และแบ่งหินเป็น 3 ก้อน ดังนี้
- หินก้อนแรก ได้แกะสลักเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่การเกิด, การตรัสรู้, และการปรินิพพาน ซึ่งด้านหลังของหินนี้ ยังมีภาพของพระอริยสงฆ์จากประเทศไทยต่างๆ และด้านข้างของหินยังมีภาพของพญาครุฑ ซึ่งบ่งบอกถึงความปรารถนาและความต้องการของมนุษย์
- หินก้อนที่สอง มีภาพแกะสลักของรอยพระพุทธบาท ทั้งหมด 4 รอย ซึ่งเป็นการนำเสนอความสำคัญของการศึกษาธรรม และคำสอนจากพระพุทธเจ้า
- หินก้อนสุดท้าย แสดงถึงภาพแกะสลักของ 4 มหาเทพย์ ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพล แต่ไม่ว่าจะมีอำนาจแค่ไหนก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากวัฏจักรสงสาร หรือวงวารการเกิดตายที่ทุกคนต้องผ่านมา