"วัดพุทธวนาราม" ซึ่งยังมีชื่อเสียงว่า "วัดป่าวังน้ำเย็น" ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนของบ้านวังน้ำเย็น ในตำบลเกิ้ง ของอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บนพื้นที่กว้างกว่า 30 ไร่ ได้รับการยกฐานะเป็นวัดอย่างถูกต้องตามระเบียบของสงฆ์ ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 และอยู่ภายใต้การดูแลของสังกัดสงฆ์มหานิกาย
การที่มีการก่อตั้งวัดป่าวังน้ำเย็นนั้น มีที่มาจากความมุ่งมั่นของพระอาจารย์สุริยันต์ เมื่อปี พ.ศ.2549 ขณะนั้นท่านกำลังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบูรพาเทพนิมิต อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในภาคอีสาน ด้วยความศรัทธาของญาติโยมและชาวมหาสารคาม ทำให้ท่านได้รับการบริจาคที่ดินในบริเวณนี้ ก่อให้เกิดการสร้างวัดนี้ขึ้นมา
ภายในวัดป่าวังน้ำเย็น จะพบศาลาปฏิบัติธรรมที่สร้างจากไม้สักทองขนาดยิ่งใหญ่มาก มีเสาไม้ถึง 112 เสา ทำให้เป็นศาลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างจากไม้ที่มีคุณภาพเช่น ไม้แดง, ไม้ประดู่ และมีการตกแต่งด้วยไม้สักทอง และยังมีหอระฆังที่สร้างจากไม้สักขนาดใหญ่ เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นสิริมงคลของวัด ประกอบไปด้วยพระพุทธรูปทรงเครื่อง หน้าตักขนาด 5 นิ้ว จำนวน 3 องค์ ซึ่งสร้างจากทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักรวมกว่า 12 กิโลกรัม และทุกปีในงานทอดกฐิน วัดจะนำพระพุทธรูปทองคำนี้ออกแห่เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้เคารพกราบวางศิวา และขอพร
วัดป่าวังน้ำเย็น ตอนนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางของผู้ศรัทธา แต่ยังได้รับความนิยมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา และเป็นที่รู้จักในเมืองมหาสารคาม ทุกวัน ผู้ศรัทธาทั้งที่อาศัยอยู่ใกล้และไกล จะมาชมถาวรวัตถุและงานศิลปะจากไม้ภายในวัด และยังกราบขอพรพระพุทธรูปทองคำ เพื่อความเป็นสิริมงคล
"วัดพุทธวนาราม" ซึ่งยังมีชื่อเสียงว่า "วัดป่าวังน้ำเย็น" ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนของบ้านวังน้ำเย็น ในตำบลเกิ้ง ของอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บนพื้นที่กว้างกว่า 30 ไร่ ได้รับการยกฐานะเป็นวัดอย่างถูกต้องตามระเบียบของสงฆ์ ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 และอยู่ภายใต้การดูแลของสังกัดสงฆ์มหานิกาย
การที่มีการก่อตั้งวัดป่าวังน้ำเย็นนั้น มีที่มาจากความมุ่งมั่นของพระอาจารย์สุริยันต์ เมื่อปี พ.ศ.2549 ขณะนั้นท่านกำลังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบูรพาเทพนิมิต อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในภาคอีสาน ด้วยความศรัทธาของญาติโยมและชาวมหาสารคาม ทำให้ท่านได้รับการบริจาคที่ดินในบริเวณนี้ ก่อให้เกิดการสร้างวัดนี้ขึ้นมา
ภายในวัดป่าวังน้ำเย็น จะพบศาลาปฏิบัติธรรมที่สร้างจากไม้สักทองขนาดยิ่งใหญ่มาก มีเสาไม้ถึง 112 เสา ทำให้เป็นศาลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างจากไม้ที่มีคุณภาพเช่น ไม้แดง, ไม้ประดู่ และมีการตกแต่งด้วยไม้สักทอง และยังมีหอระฆังที่สร้างจากไม้สักขนาดใหญ่ เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นสิริมงคลของวัด ประกอบไปด้วยพระพุทธรูปทรงเครื่อง หน้าตักขนาด 5 นิ้ว จำนวน 3 องค์ ซึ่งสร้างจากทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักรวมกว่า 12 กิโลกรัม และทุกปีในงานทอดกฐิน วัดจะนำพระพุทธรูปทองคำนี้ออกแห่เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้เคารพกราบวางศิวา และขอพร
วัดป่าวังน้ำเย็น ตอนนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางของผู้ศรัทธา แต่ยังได้รับความนิยมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา และเป็นที่รู้จักในเมืองมหาสารคาม ทุกวัน ผู้ศรัทธาทั้งที่อาศัยอยู่ใกล้และไกล จะมาชมถาวรวัตถุและงานศิลปะจากไม้ภายในวัด และยังกราบขอพรพระพุทธรูปทองคำ เพื่อความเป็นสิริมงคล
