วัดบางพลีใหญ่กลาง ตั้งอยู่บริเวณคลองสำโรงฝั่งเหนือ ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากวัดบางพลีใหญ่เล็กน้อย สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2367 ชาวบ้านละแวกบางพลี เรียกว่า วัดกลาง อาจเป็นเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางระหว่างวัดบางพลีใหญ่ในกับวัดคงคาราม (วัดยายหนู) ซึ่งเป็นวัดร้างไปแล้ว เดิมที่ตั้งวัดเป็นที่ดินของนายช้างหมื่นราษฎร์ โดยนาย น้อย หมื่นราษฎร์ พี่ชายเป็นผู้สร้างขึ้นและได้ขนานนามวัดว่า "วัดน้อยปทุมคงคา" เพราะได้ขุดสระปลูกบัวหลวงไว้ด้วย ต่อมาเปลี่ยนนามวัดใหม่ว่า "วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม" และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น "วัดบางพลีใหญ่กลาง"
วัดบางพลีใหญ่กลางได้รับพระราชทาน วิสุคามสีมาเมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 เขตวิสุคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ในด้านการศึกษาทางวัดจัดให้มีการเรียนพระปริยัติธรรมตลอดมา นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการศึกษาของชาติโดยให้ความร่วมมือกับทางราชการ ให้ที่วัดสร้างโรงเรียนทั้งระดับประถมศึกษา(โรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง) และมัธยมศึกษา(โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง) ด้วยเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งหมด 8 รูป
พระศากยมุนีศรีสุเมธบพิตร วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยาว 26 วา 1 ศอก 9 นิ้ว กว้าง 3 วา 1 ศอก สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2521 เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยพระครูพิสารวุฒิกิจ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางรูปปัจจุบัน แรงบันดาลใจในการสร้างพระนอนท่านเล่าว่า “จากประสบการณ์ที่อยู่ในสมณะเพศได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงเกิดความคิดที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการสร้างกุศล และให้ประชาชนมาทำบุญที่วัดมากๆเหมือนกับวัดอื่นๆ ที่เคยพบเห็น”
เมื่อเข้ามาภายในวัด ทางข้างขวามือจะเป็น ศาลากลางน้ำวัดบางพลีใหญ่กลาง ที่นี่เป็นจุดที่ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว นิยมมานั่งพักผ่อน ให้อาหารปลา รวมถึงการปล่อยปลาปล่อยเต่า ณ บริเวณนี้และภายในวัดยังมีอาหาร ของกินขายทั้งเช้า และตอนเย็น ภายในตัวพระนอนนั้น สามารถเข้าไปได้จากทางด้านหลังขององค์พระ มีภาพเขียนเป็นเรื่องราวเทวดานรก และเรือสำเภาหน้าวัดด้านริม คลองสำโรงและ มีอวัยวะภายใน โดยเฉพาะหัวใจจะบรรจุด้วยเพชรนิล จินดา น้ำพันจันทร์ และทองคำ ดันสื่อความหมายถึงความแข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประชาชนมาปิดทองที่หัวใจพระนอนเปรียบเสมือนปิดทองหัวใจพระพุทธเจ้า
วัดบางพลีใหญ่กลาง ตั้งอยู่บริเวณคลองสำโรงฝั่งเหนือ ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากวัดบางพลีใหญ่เล็กน้อย สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2367 ชาวบ้านละแวกบางพลี เรียกว่า วัดกลาง อาจเป็นเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางระหว่างวัดบางพลีใหญ่ในกับวัดคงคาราม (วัดยายหนู) ซึ่งเป็นวัดร้างไปแล้ว เดิมที่ตั้งวัดเป็นที่ดินของนายช้างหมื่นราษฎร์ โดยนาย น้อย หมื่นราษฎร์ พี่ชายเป็นผู้สร้างขึ้นและได้ขนานนามวัดว่า "วัดน้อยปทุมคงคา" เพราะได้ขุดสระปลูกบัวหลวงไว้ด้วย ต่อมาเปลี่ยนนามวัดใหม่ว่า "วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม" และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น "วัดบางพลีใหญ่กลาง"
วัดบางพลีใหญ่กลางได้รับพระราชทาน วิสุคามสีมาเมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 เขตวิสุคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ในด้านการศึกษาทางวัดจัดให้มีการเรียนพระปริยัติธรรมตลอดมา นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการศึกษาของชาติโดยให้ความร่วมมือกับทางราชการ ให้ที่วัดสร้างโรงเรียนทั้งระดับประถมศึกษา(โรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง) และมัธยมศึกษา(โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง) ด้วยเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งหมด 8 รูป
พระศากยมุนีศรีสุเมธบพิตร วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยาว 26 วา 1 ศอก 9 นิ้ว กว้าง 3 วา 1 ศอก สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2521 เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยพระครูพิสารวุฒิกิจ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางรูปปัจจุบัน แรงบันดาลใจในการสร้างพระนอนท่านเล่าว่า “จากประสบการณ์ที่อยู่ในสมณะเพศได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงเกิดความคิดที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการสร้างกุศล และให้ประชาชนมาทำบุญที่วัดมากๆเหมือนกับวัดอื่นๆ ที่เคยพบเห็น”
เมื่อเข้ามาภายในวัด ทางข้างขวามือจะเป็น ศาลากลางน้ำวัดบางพลีใหญ่กลาง ที่นี่เป็นจุดที่ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว นิยมมานั่งพักผ่อน ให้อาหารปลา รวมถึงการปล่อยปลาปล่อยเต่า ณ บริเวณนี้และภายในวัดยังมีอาหาร ของกินขายทั้งเช้า และตอนเย็น ภายในตัวพระนอนนั้น สามารถเข้าไปได้จากทางด้านหลังขององค์พระ มีภาพเขียนเป็นเรื่องราวเทวดานรก และเรือสำเภาหน้าวัดด้านริม คลองสำโรงและ มีอวัยวะภายใน โดยเฉพาะหัวใจจะบรรจุด้วยเพชรนิล จินดา น้ำพันจันทร์ และทองคำ ดันสื่อความหมายถึงความแข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประชาชนมาปิดทองที่หัวใจพระนอนเปรียบเสมือนปิดทองหัวใจพระพุทธเจ้า